คำถามที่พบบ่อย (FAQ) 

 


ดาวน์โหลดคำถาม,คำตอบทั้งหมด pdf

          

1. ถาม ข้าราชการและลูกจ้างประจำ สามารถเลือกที่จะเป็นข้าราชการหรือลูกจ้างประจำอย่างเดิมได้หรือไม่

    ตอบ ร่าง พรบ. มศก. กำหนดให้เป็นระบบคู่ขนานตลอดไป โดยข้าราชการหรือลูกจ้างประจำสามารถเลือกที่จะเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย หรือลูกจ้างมหาวิทยาลัย หรือจะคงสภาพความเป็นข้าราชการหรือลูกจ้างประจำต่อไปก็ได้ ดังนั้น ข้าราชการและลูกจ้างประจำสามารถอยู่เป็นข้าราชการหรือลูกจ้างประจำจนเกษียนอายุราชการได้


2. ถาม ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศิลปากรอยู่ในขั้นตอนใด

    ตอบ สภามหาวิทยาลัยในการประชุมครั้งที่ 5/2557 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ได้มีมติเห็นชอบร่าง พรบ.มศก. พ.ศ..... และให้นำเสนอสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาพิจารณาดำเนินการต่อไปนั้น ร่าง พรบ.มศก. พ.ศ..... ได้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2558
ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติร่าง พรบ.มศก. พ.ศ..... ตามที่กระทรวงศึกษาเสนอ ขณะนี้ร่าง พรบ. มศก.พ.ศ..... ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฏีกา (คณะที่ 8) เรียบร้อยแล้ว จากนั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา ก็จะนำร่าง พรบ.มศก. พ.ศ. .... เสนอกลับไปที่คณะรัฐมนตรีเพื่อให้พิจารณานำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้พิจารณาร่าง พรบ. มศก. พ.ศ. .... โดยให้ มศก. มีฐานเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐแล้ว ก็จะส่งให้ราชเลขาธิการนำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป


3. ถาม ขอทราบความคืบหน้าการจัดทำกฎหมายลำดับรอง?

    ตอบ มหาวิทยาลัยได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น จำนวน 8 ชุด ได้แก่
         1. คณะอนุกรรมการจัดทำข้อบังคับ ระเบียบและประกาศเกี่ยวกับโครงสร้างองค์กร
         2. คณะอนุกรรมการจัดทำข้อบังคับ ระเบียบและประกาศเกี่ยวกับการเปลี่ยนสถานภาพและระบบบริหารงานบุคคล
         3. คณะอนุกรรมการจัดทำข้อบังคับ ระเบียบและประกาศเกี่ยวกับโครงสร้างระบบบริหารงานวิชาการ
        4. คณะอนุกรรมการจัดทำข้อบังคับ ระเบียบและประกาศเกี่ยวกับโครงสร้างระบบบริหารการเงินและทรัพย์สิน
         5. คณะอนุกรรมการจัดทำข้อบังคับ ระเบียบและประกาศเกี่ยวกับโครงสร้างระบบบริหารงานกิจการนักศึกษา
         6. คณะอนุกรรมการจัดทำข้อบังคับ ระเบียบและประกาศเกี่ยวกับโครงสร้างระบบบริหารงานวิจัยและบริการทางวิชาการ
         7. คณะอนุกรรมการจัดทำข้อบังคับ ระเบียบและประกาศเกี่ยวกับสภาคณาจารย์และพนักงาน

        8. คณะอนุกรรมการจัดทำข้อบังคับ ระเบียบและประกาศเกี่ยวกับการประกันคุณภาพและการประเมิน
          เพื่อพิจารณาจัดทำร่างข้อบังคับ ระเบียบและประกาศที่เกี่ยวข้อง โดยในระยะเริ่มต้นของมหาวิทยาบัยศิลปากรที่มีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ มหาวิทยาลัยมีเป้าหมายจะประกาศใช้ข้อบังคับ ระเบียบและประกาศ ดังต่อไปนี้ก่อน คือ
         - ประกาศมหาวิทยาลัยศิลปากร เรื่อง การจัดตั้งส่วนงานของมหาวิทยาลัยศิลปากร               
         - ประกาศมหาวิทยาลัยศิลปากร เรื่อง การแบ่งหน่วยงานภายในส่วนงานของมหาวิทยาลัยศิลปากร
         - ข้อบังคับมหาวิทยาลัยศิลปากรเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล
         - ข้อบังคับมหาวิทยาลัยศิลปากรเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาอธิการบดี                   
         - ข้อบังคับมหาวิทยาลัยศิลปากรเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาคณบดี             
         - ข้อบังคับมหาวิทยาลัยศิลปากรเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาหัวหน้าส่วนงานที่เรียกชื่ออย่าง
อื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ                                                       
         - ข้อบังคับมหาวิทยาลัยศิลปากรเกี่ยวกับการรักษาการแทน และการปฏิบัติการแทน    
         - ข้อบังคับมหาวิทยาลัยศิลปากรเกี่ยวกับการแสดงเจตนาเปลี่ยนสถานภาพมาเป็นพนักงาน
   มหาวิทยาลัยศิลปากร 
         - ข้อบังคับมหาวิทยาลัยศิลปากรเกี่ยวกับการแสดงเจตนาเปลี่ยนสถานภาพมาเป็นลูกจ้างของ
มหาวิทยาลัยศิลปากร  
         - ข้อบังคับมหาวิทยาลัยศิลปากรเกี่ยวกับสภาวิชาการ                                               
         - ประกาศมหาวิทยาลัยศิลปากร เรื่อง ตรา เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย
หรือส่วนงานของมหาวิทยาลัย                                                                                
         - ข้อบังคับมหาวิทยาลัยศิลปากรเกี่ยวกับการบริหารการเงินของมหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อให้รองรับ
ทั้งงบประมาณแผ่นดิน งบเงินอุดหนุน และเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย


4. ถาม ผู้บริหารตำแหน่งใดบ้างที่จะต้องเปลี่ยนสถานภาพจากข้าราชการไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย

    ตอบ ในเรื่องนี้ ขอถือตามร่าง พรบ.มศก. พ.ศ.... ที่ผ่านความเห็นชอบจากการพิจารณาร่วมกันหลายฝ่ายกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา ตำแหน่งผู้บริหารที่จะต้องเปลี่ยนสถานภาพจากข้าราชการไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย มี 2 ตำแหน่ง เท่านั้น ได้แก่
         1. ตำแหน่งอธิการบดี ผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดี จะต้องพิจารณาว่ามีความประสงค์จะดำรงตำแหน่งอธิการบดีต่อไปหรือไม่ ถ้าประสงค์จะดำรงตำแหน่งอธิการบดีต่อไปต้องแสดงความประสงค์ขอเปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ พรบ.มศก. (ฉบับใหม่) มีผลใช้บังคับ

         2. ตำแหน่งคณบดี และหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ ผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว จะต้องพิจารณาว่ามีความประสงค์จะดำรงตำแหน่งผู้บริหารดังกล่าวอยู่ต่อไปหรือไม่ ถ้าประสงค์จะดำรงตำแหน่งผู้บริหารตำแหน่งดังกล่าวต่อไป ต้องแสดงความประสงค์ขอเปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพนักงานภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ พรบ. มศก. (ฉบับใหม่) มีผลบังคับใช้


5. ถาม บำเหน็จ บำนาญ คำนวณอย่างไร?

    ตอบ - กรณีที่ไม่ได้เป็นสมาชิก กบข.
         บำเหน็จ = เงินเดือนเดือนสุดท้าย คูณด้วย เวลาราชการ
          บำนาญ = เงินเดือนเดือนสุดท้าย คูณด้วย เวลาราชการ หารด้วย 50 (เวลาราชการถ้าเศษของปีถึง 6 เดือน ปัดเป็น 1 ปี ตาม พรบ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 29)
        - กรณีเป็นสมาชิก กบข.
                  บำเหน็จ = เงินเดือนเดือนสุดท้าย คูณด้วย เวลาราชการ
          บำนาญ = เงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย คูณด้วย เวลาราชการ หารด้วย 50 (แต่ไม่เกิน 70% ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย (เวลาราชการให้นับรวมเศษของปีด้วย ตาม พรบ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 และมาตรา 66)
    


6. ถาม การเปลี่ยนสถานภาพของข้าราชการ/ลูกจ้างประจำเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย/ลูกจ้างของมหาวิทยาลัยมีกำหนดเวลาเพียงใด

    ตอบ    การแสดงเจตนาเปลี่ยนสถานภาพมี 3 ระยะ

ระยะที่ 1 แสดงเจตนาภายใน 1 ปี ให้บรรจุเป็นพนักงานฯ/ลูกจ้างทันทีโดยไม่ต้องประเมินฯ

ระยะที่ 2 แสดงเจตนาภายหลัง 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ให้ประเมินความรู้ความสามารถ จึงบรรจุเป็นพนักงานฯ /ลูกจ้าง ไม่ต้องทดลองงาน

ระยะที่ 3 แสดงเจตนาภายหลัง 3 ปี ถ้ามหาวิทยาลัยเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัย และมีกรอบอัตรารองรับ ให้บรรจุเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย /ลูกจ้างของมหาวิทยาลัย ตามข้อบังคับ

เมื่อยื่นเรื่องแสดงเจตนาแล้วจะถอนไม่ได้


7. ถาม ถ้าเปลี่ยนสถานภาพแล้ว จะเลือกรับบำเหน็จหรือบำนาญดี หรือควรต่อ กบข. หรือไม่

    ตอบ ได้สรุปข้อมูลมาให้ใช้ประกอบการตัดสินใจ ดังนี้

                          tab 7

แต่มีข้อควรคำนึงสำหรับผู้ที่ต่อ กบข. เนื่องจากตามมาตรา 44 แห่ง พรบ. กบข. กำหนดไว้ว่า สมาชิกภาพ
ของสมาชิกสิ้นสุดลงเมื่อผู้นั้นออกจากราชการ เว้นแต่เป็นการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามกฎหมายว่าด้วย
ระเบียบข้าราชการนั้นๆ หรือการออกจากราชการของผู้ไปปฏิบัติงานตามพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์การสั่งให้ข้าราชการไปทำการ ซึ่งให้นับเวลาระหว่างนั้นเหมือนเต็มเวลาราชการ ดังนั้น สมาชิก
จึงไม่สามารถลาออกจาก กบข. ได้ในขณะที่ยังรับราชการอยู่ และผู้ที่ต่อ กบข. เมื่อออกจากราชการ
เกณฑ์การได้รับบำเหน็จหรือบำนาญก็จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ปกติ (ออกด้วยเหตุรับราชการนานหรือสูงอายุ) ดังนี้

                                       tab 7.5

 


8. ถาม อยากให้สรุปว่า ถ้าเปลี่ยนสถานภาพแล้ว หากเลือกรับบำเหน็จหรือบำนาญจะได้สิทธิประโยชน์อย่างไรต่อไป

    ตอบ สรุปมาให้ดังนี้

 

                               tab 8